ทัวร์ไฮไลท์
แผนการเดินทาง:
วันที่ 1: กรุงเทพฯ – ปาโร – ทิมพู – พุทธะ พ้อยท์ – อนุสรณ์สถานโชร์เต็น – ตาชิโช ซง
วันที่ 2: ทิมพู – พูนาคา – จุดชมวิวโดชูล่า – วัดชิมิ – พูนาคาซอง – สะพานแขวนแห่งพูนาคา
วันที่ 3: พูนาคา – ปาโร – ปาโร รินปุง ซง – พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติภูฏาน ตาซง
วันที่ 4: ปาโร – ตั๊กซัง
วันที่ 5: ปาโร – กรุงเทพฯ
ราคานี้รวมอะไรบ้าง
ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ – ปาโร – กรุงเทพฯ
ค่าวีซ่าเข้าประเทศภูฏาน
รถรับ-ส่ง และเดินทางภายในประเทศภูฏาน
โรงแรมที่พัก 4 คืน
อาหาร 3 มื้อ / วัน
ประกันการเดินทาง
ไม่รวมในแพ็กเกจ
อาหาร และ เครื่องดื่ม อื่นๆ นอกเหนือจากที่มีในโปรแกรม
สินค้าหรือของที่ระลึกต่างๆ
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ
พาท่านเดินทางสู่ราชอาณาจักรภูฏาน ต้อนรับทุกท่านด้วยวิวเทือกเขาหิมาลัย ตลอด 2 ฝั่งหน้าต่าง หลังจากพาท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระเสร็จเรียบร้อย นำท่านเดินทางสู่เมืองทิมพู เมืองหลวงของประเทศภูฏาน พักยืดเส้นยืดสาย เก็บสัมภาระและเช็คอินเข้าโรงแรม
พาท่านเที่ยวชมสถานที่สำคัญต่าง ๆ ในเมืองทิมพู เริ่มต้นด้วย คุนเซลโพดรัง(พุทธะพ้อยท์) หนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่พิเศษสุดแห่งหนึ่งที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในภูฏาน มีความสูงถึง 51.5 เมตร
นำท่านสู่ อนุสรณ์สถานแห่งชาติ โชร์เต็น อนุสรณ์สถานมีสีขาวโดดเด่นที่มีคุณค่าทางศาสนาและจิตวิญญาณของเมืองทิมพู ผู้คนมักแวะเวียนกันมาสักการะอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ภายในยังมีภาพจิตรกรรมและประติมากรรมที่แฝงหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเอาไว้มากมาย
และ ตาชิโชซง ป้อมปราการอันยิ่งใหญ่ที่เป็นหนึ่งในแลนมาร์คยอดนิยมและใหญ่ที่สุดในเมืองทิมพู
รับประทานอาหารเย็นและพักค้างแรม ณ โรงแรมในเมืองทิมพู
ระดับความสูง: 1,310 เมตร / 4,300 ฟุต
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
เตรียมตัวออกเดินทางหุบเขาพูนาคา แวะชมวิวและดื่มด่ำไปกับทัศนียภาพของเทือกเขาหิมาลัยฝั่งที่ติดกับภูฏานแบบพาโนรามา เจดีย์ทั้ง 108 องค์และวัดดรุกวังเกล (Druk Wangye Lhakhang)ที่ จุดชมวิวโดชูล่า (Dochula pass) นอกจากสถานที่ดังกล่าว ท่านยังสามารถเดินเขาในระยะทางสั้นๆ เพื่อขึ้นไปยังวัดหลุงชูเซคา (Lungchuzekha) ได้อีกด้วย
พาท่านเดินผ่านทุ่งข้าวเขียวขจีเพื่อเที่ยวชม วัดชิมี (Chimi Lhakhang) วัดที่คู่สามีภรรยาที่มีบุตรยากนิยมมาขอพร ซึ่งมักสมปรารถนาอย่างน่ามหัศจรรย์(ความเชื่อส่วนบุคคล) คู่รักจะทำพิธีขอพรจากลูกศรและคันธนู พระคัมภีร์และลึงค์ของลามะดรุกปา คุนเลย์ คู่สามีภรรยาบางคู่จะพักค้างคืนที่อารารามแห่งนี้
ป้อมฯ พูนาคาซง บริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำ Phochhu และแม่น้ำ Mochhu ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นป้อมปราการที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ และยังเก็บอัฐิธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ของพระลามะจากสำนัก Drukpa Kagyu แห่งแดนใต้ ได้แก่ ท่าน Rangjung Kasarpani รวมถึงสังขารของท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล และท่าน Padma Lingpa และพักชมวิวที่ สะพานแขวนแห่งพูนาคา จุดชมวิวแม่กลางแม่น้ำซึ่งเป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในภูฏาน ทอดข้ามแม่น้ำซังชู (โพชู) เชื่อมต่อป้อมพูนาคาซง และหมู่บ้านที่อยู่รอบข้าง โดยมีความยาวกว่า 500 ฟุต โดยท่านสามารถชมความงดงามของป้อมปราการที่น่าเกรงขามนี้ โดยตั้งต้นจากสะพานข้ามแม่น้ำ Mochhu ที่ทอดยาวเชื่อมไปจนถึงทะเลสาบหลังป้อมและป้อมอื่นๆ ที่อยู่รายรอบ
รับประทานอาหารเย็นและพักค้างแรม ณ โรงแรมในเมืองพูนาคา
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก เตรียมออกเดินทางสู่เมืองปาโร
เที่ยวชม ปาโร รินปุง ซง ป้อมปราการต้นแบบสถาปัตยกรรมที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของภูฏาน และยังเป็นที่จัดงานเทศกาลระบำหน้ากากปาโร เซชู หนึ่งในเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของภูฏานซึ่งจัดขึ้นในวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ นอกจากนี้ ป้อม ปาโร รินปุง ซง ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ‘Little Bhuddha’ (1993) ที่นำแสดงโดย คีอานู รีฟฟ์ อีกด้วย และ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติภูฏาน ตาซง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแห่งแรกของภูฏาน
ช่วงเย็นพาท่านนั่งรถชมทัศนียภาพโดยรอบเมืองปาโรและเดินเที่ยวชมย่านตัวเมืองปาโร เพื่อพักผ่อนอิริยาบท เมืองปาโรเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของภูฏาน มีร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกมากมาย ให้ท่านได้เยี่ยมชมและซื้อหาของฝาก / ของที่ระลึก
พักค้างแรม ณ โรงแรมในเมืองปาโร
ระยะทาง 65 กิโลเมตร เวลาเดินทาง 1.30 ชั่วโมง
ระดับความสูง: 2,400 เมตร / 7,875 ฟุต
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
เดินทางกลับสู่เมืองปาโร เพื่อไปยัง พระอารามตั๊กซัง (Taktsang) อารามที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของภูฏาน คำว่า Taksang มีความหมายตรงตัวว่า “รังเสือ” โดยการเดินทางขึ้นพระอารามใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ระหว่างทางมีจุดพักเป็นระยะ และมีร้านอาหาร/กาแฟ บริการ ณ จุดพักกลางทาง และมีจุดให้ถ่ายรูป ชมวิว ท่านจะได้สัมผัสความงดงงามของป่าสนตลอดเส้นทาง และดื่มด่ำกับทิวทัศน์สุดตระการตาของหุบเขาเมืองปาโร
ท่านที่ประสงค์จะเดินทางขึ้นพระอารามสามารถเลือกเดินทางขึ้นต่อได้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนท่านที่ไม่ประสงค์จะขึ้นไปยังตัวพระอารามสามารถพักผ่อนและเดินทางกลับลงไปก่อนได้
**สำหรับท่านที่ไม่สะดวกเดิน/ปีนเขา สามารถใช้บริการม้าสำหรับขึ้นเขาได้ (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) โดยจะสามารถส่งท่านถึงคาเฟ่กลางทางเท่านั้น และต้องเดินเท้าต่อ**
ช่วงเย็น พาท่านเยี่ยมชมและสัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวภูฏาน ณ บ้านสไตล์ชนบท (ท่านสามารถใช้บริการอ่างอาบน้ำหินร้อนแบบภูฏานได้ – มีค่าบริการเพิ่มเติม)
ช่วงค่ำ เดินชมความครึกคื้นยามค่ำคืน ของเมืองปาโร เมืองท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของภูฏาน มีร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกมากมาย ให้ท่านได้เยี่ยมชมและซื้อหาของฝาก / ของที่ระลึก
พักค้างแรม ณ โรงแรมในเมืองปาโร
รับประทานอาการเช้า ณ โรงแรมที่พัก เช็คเอาท์ และออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานปาโร
ถ่ายรูปที่ระลึกและบันทึกความประทับใจ จากนั้นทีมงานจะพาท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองขาออก ท่านสามารถแวะเยี่ยมชมร้านจำหน่ายสินค้า OGOP ในสนามบินฯ ได้ โดยโครงการส่งเสริมด้านการเกษตร โดยการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ OGOP ของราชอาณาจักรภูฏาน (The One Gewog One Product (OGOP) Development Project) เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยท่านสามารถชมสินค้าของร้าน OGOP ได้ที่ ogop.bt
พาท่านเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
