วังดีโพดรัง (Wangduephodrang) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพูนาคา เรียกสั้นๆ ว่า วังดี (Wangdue) เป็นเมืองสุดเขตแดนของฝั่งตะวันตกที่มีทางหลวงตัดผ่านก่อนเข้าสู่ภาคกลางของภูฏาน วังดีเป็นมณฑลที่ใหญ่เป็นอันดับสองของภูฏานมีประชากรราว 28,000 คน และมีความสำคัญในการรวมดินแดนฝั่งตะวันตก ตอนกลางและทางตอนใต้ของภูฏานในช่วงศตวรรษที่ 17 เมืองนี้เป็นเมืองที่พลุกพล่าน และยังมีทัศนียภาพอันงดงามของหุบเขาและป้อมปราการ
เมืองนี้เป็นที่รู้จักในเรื่องวัฒนธรรมเกี่ยวกับผู้นำทางจิตวิญญาณ บทเพลงลำนำหรือ Lozeys of Shaa บ้านโบราณของอัศวิน Pema Tshewang Tashi ซึ่งชื่อของเขายังปรากฏในบทลำนำที่ยังคงขับร้องในหมู่ชาวภูฏาน ถัดไปจากหุบเขาเป็นทุ่งปศุสัตว์ทอดยาวสำหรับเลี้ยงวัว นอกจากนี้วังดีโพดรังยังมีงานศิลปหัตถกรรมจากไม้ไผ่และงานแกะสลักหินชนวนซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของเมืองนี้
สภาพอากาศร้อนปานกลางในช่วงฤดูร้อนและมีอากาศหนาวเย็นในฤดูหนาว และสามารถพบนกอพยพอย่างนกกะเรียนคอดำได้
หุบเขาพบจิกาเป็นที่ราบอันสงบ มีทิวทัศน์ที่งดงาม เหมาะแก่การปั่นจักรยาน หากเป็นฤดูหนาว คุณจะได้เห็นฝูงนกกะเรียนคอดำที่อพยพหนีอากาศหนาวเย็นจากบริเวณที่ราบสูงในทิเบตมาอาศัยอยู่ตามทุ่งหญ้าที่หุบเขาแห่งนี้
อารามกังเตย์(Gangtey Goenpa) ตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่บ้านในหุบกังเตย์ สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 17 ประกอบด้วยอารามหลัก เขตสงฆ์ ศูนย์ปฏิบัติกรรมฐานและเกสต์เฮาส์ขนาดเล็ก
หุบเขาพบจิกา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใช้เวลาขับรถเพียงไม่กี่ชั่วโมงจากเมืองวังดี หุบเขานี้มีชื่อเสียงเพราะในฤดูหนาว ฝูงนกกะเรียนคอดำที่หายากจะพากันอพยพย้ายถิ่นหนีหนาวมาอยู่ที่นี่ บริเวณหุบเขาแห่งนี้ยังเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ นอกจากนกกะเรียนคอดำแล้ว หุบเขาพบจิกายังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าอีกหลายชนิด อาทิ เก้ง หมูป่า กวางป่า เลียงผา หมีดำหิมาลัย เสือดาวและจิ้งจอกแดง
ในช่วงฤดูหนาว นักท่องเที่ยวสามารถสังเกตเห็นนกกะเรียนคอดำซึ่งจะปรากฏเป็นจุดเล็กๆ กลางทุ่งหญ้าในหุบเขา นอกจากนี้ สมาคมอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งภูฏานยังได้จัดเทศกาลสำหรับนกกะเรียนคอดำเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของนกหายากชนิดนี้
นกชนิดนี้จะอพยพจากที่ราบสูงของทิเบตในฤดูหนาวมาสู่เขตอากาศที่อบอุ่นกว่าของหุบเขาพบจิกา
วังดีโพดรังซอง(Wangdiphodrang Dzong) สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2182 ตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถมองลงมายังแม่น้ำ Punatsangchu และ Dangchu เบื้องล่างได้
ในอดีตป้อมแห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญในเชิงอำนาจการปกครองในช่วงก่อนหน้าที่ภูฏานจะมีการสถาปนาระบอบกษัตริย์ ป้อมวังดีโพดรังเป็นสถานที่ที่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกลจากตัวเมือง ท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล ได้ดำริให้สร้างป้อมแห่งนี้ขึ้น
ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางการบริหารราชการและเป็นสถานที่จำพรรษาของคณะสงฆ์
ก่อนหน้าที่ภูฏานจะสถาปนาระบอบกษัตริย์ ผู้บัญชาการป้อมถือเป็นผู้มีบทบาทสำคัญ